Our Medical Platform
STEMCERA R&D / LAB
ที่ STEMCERA การค้นคว้าวิจัยและต่อยอดเทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่มีวันสิ้นสุด
จากการค้นพบเทคโนโลยี Stem cell เมื่อปี 1960 เป็นครั้งแรกของโลก จนถึงปัจจุบัน Stem cell ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก Stem cell ที่ได้จากแหล่งกำเนิดและการเพาะเลี้ยงที่ถูกต้องได้สร้างความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ให้วงการแพทย์อย่างมากมาย




Our Medical Technology
ต้องยอมรับครับว่าการพัฒนาวิจัยเรื่อง Stem cell ได้เดินทางมาไกลกว่าที่ใครๆเคยคาดคิดและเคยรับรู้และรับทราบมาก่อนโดยในปัจจุบัน ดร.นพ.กำพล ศรีวัฒนกุล ในฐานะเป็นผู้นำเรื่องการพัฒนา Stem cell ในประเทศไทยและได้ร่วมงานด้านวิจัย Stem cell เพื่อการรักษาโรคต่างๆเช่น โรคทางสมอง โรคมะเร็ง โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำร้ายตนเอง โรคที่เกิดจากความเสื่อม โรคกระดูกและข้อ จนรวมไปถึงโรคเรื้อรังอื่นๆอีกมากมายทั่วโลก ผลลัพธ์ที่ได้นับว่าเกินความคาดหมาย จนปัจจุบัน การทำเซลล์บำบัด (Cell Therapy) นั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและในราคาที่ลดลงเป็นอันมาก
ดร.นพ.กำพล ศรีวัฒนกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ RRC (Regenerative Rehabilitation Center) ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ชั้น 6 โรงพยาบาลปิยะเวท โดยในปี 2022 ท่านได้วางหลักการในการรักษาด้วยประสพการณ์และงานวิจัยทั้งชีวิตเพื่อความสำเร็จสูงสุดในการรักษาผู้ป่วยไว้ดังนี้
Precision Diagnosis (การวินิจฉัยที่แม่นยำ)
-
Genomics การถอดรหัสพันธุกรรมจาก DNA ด้วยการทำ Gene Diagnosis ของแต่ละบุคคลเพื่อประเมิณความเสี่ยงด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต รวมถึงการทำ Gene Profiling, Liquid Biopsy ด้วย Marker ต่างๆกว่า 40 ชนิด ซึ่งมีความแม่นยำสูงในการตรวจมะเร็งชนิดต่างๆ และโรคเรื้อรังทุกชนิด อันยังส่งผลดีในการใช้ยามุ่งเป้า(Targeted drug therapy) ด้วยหลักการของ Pharmacogenetics ที่สามารถจ่ายยาให้เข้ากับ DNA ของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
-
Epigenomics (เหนือพันธุกรรม) เพื่อตรวจหาความเสี่ยงของการเกิด Gene Mutation (การกลายพันธ์ของ Gene) ซึ่งส่งผลต่อการเกิดโรคมากถึง 95% การล่วงรู้ถึง gene mutation ของแต่ละบุคคลจะทำให้รู้ถึงปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค (Risk Factor) อันจะนำไปสู่แนวทางการป้องกันเฉพาะบุคคล (Personalized Health care solution) รวมถึงการทำโปรแกรมการให้คำแนะนำหลังการรักษาด้วยระบบ Digital Health Care สำหรับคนไข้แต่ละท่านในอนาคต
-
Proteomics (การเสริมสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อการรักษาโรค) เช่น Growth Factor ที่มีคุณภาพสูงอย่าง Exosome,Numosome,Esciosome และ Spacific Growth Factor เพื่อร่างกายแต่ส่วนตามความจำเป็น รวมไปถึงการสร้าง Chaperone Protein Placenta Protein และ Immune Booster ชนิดต่างๆเช่น Specific cytokine เป็นต้น
-
Metabolomics เป็นการวิเคราะห์คุณภาพการทำงานของ metabolites สารตั้งต้นของโมเลกุลขนาดเล็ก ตัวกลาง และระดับการเผาผลาญของเซลล์ที่ต่างกันของแต่ละบุคคล เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของระบบร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างแม่นยำ
-
Microbiomics การสร้าง Probiotic และ Prebiotic ที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล
Regenerative Medicine (เวชศาสตร์ฟื้นฟู)
ด้วยระบบการรักษาที่กล่าวมาข้างต้นนี้ จึงสามารถทำให้เราสามารถทำการรักษาผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำและตรงเป้าที่สุดด้วย Cell Based Therapy (การบำบัดด้วยเซลล์) การทำเซลล์บำบัดด้วยการนำเซลล์จากเลือดและไขมันของผู้ป่วย(Autologous) หรือฟันน้ำนมของบุตรหลานมาคัดแยก Stem cell เพื่อจัดเตรียม Peripheral blood stem cell (PBSC) และนำมาคัดแยกจนได้ Very small embryonic-like stem cells (VSELs) แล้วนำกลับมาฉีดเพื่อรักษาผู้ป่วย อีกทั้งยังสามารถสกัดเอาเซลล์เม็ดเลือดขาว (Immune cell) เพื่อนำมาเพาะเลี้ยงในส่วนของ Cytokine และ Interlukine อีกด้วย โดยในปัจจุบันได้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Tokyo University เพื่อนำ NK Cell ที่สกัดได้มาพัฒนาเป็น NK-T Cell รวมถึง Car-T Cell เพื่อรักษาโรคมะเร็งชนิดต่างๆ แทนรังสีรักษาและเคมีบำบัด อันถือเป็นการรักษาด้วยวิธี Immunotherapy อย่างแท้จริง
เราได้ค้นพบแล้วว่า Stem Cell ที่มีคุณภาพไม่เพียงแต่รักษาโรคต่างๆได้เป็นอย่างดีและยังสามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายและสังขารได้ในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากเป็นการรักษาอย่างธรรมชาติซ่อมตนเองซึ่งโรคทางสมองอย่าง Autistic Spectrum Disorder, Cerebral Palsy, MS, ALS, Stroke และอื่นๆ โรคอย่างเส้นเลือดหัวใจ และเส้นเลือดสมองตีบก็ได้ผลดีเช่นกัน เพียงแต่ใช้ Stem cell อย่างถูกต้องและให้โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์มากพอ
จากประสบการณ์เรายังค้นพบว่าการที่เราใช้ Stem Cell เพื่อทำ Gene Replacement Therapy ยังส่งผลดีต่อการปลูกถ่ายอวัยวะ (Organ transpant) และการซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่างกาย (Tissue engineering) อีกทั้งยังป้องกันการต่อต้านอวัยวะใหม่หลังการปลูกถ่ายอีกด้วย
ดร.นพ.กำพล ศรีวัฒนกุล ตั้งใจให้ ศูนย์ RRC ชั้น 6 โรงพยาบาลปิยะเวท เป็นต้นแบบของการรักษาแบบการแพทย์สหะสาขา (Multi disciplinary) อย่างแท้จริง โดยนำเอาการแพทย์โบราณผสมผสานการแพทย์สมัยใหม่เช่นการใช้สมุนไพรร่วมกับหุ่นยนต์ฟื้นฟูหลังจากการทำเซลล์บำบัด เพื่อความเป็นเลิศในการรักษาและประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย ใน"ราคาที่ไม่ได้มากกว่าการรักษาด้วยการแพทย์แบบแผนทั่วไป"
